ตุรกี คือชาติที่มีผู้ติดไวรัสสะสมมากสุดลำดับ 6 ของโลกร่วม 4.7 ล้านราย แต่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่คือเรื่องน่าห่วงเพราะตั้งแต่ปลายมี.ค.เป็นต้นมาทะลุวันละหมื่นราย เคยขึ้นไปแตะเกือบ 7 หมื่น-ต่อ-วัน ยังดีว่าสถานการณ์คลี่คลายลงมาแต่ก็มีตัวเลขสูงระดับ 4 หมื่นราย-ต่อขวัน จนต้องประกาศล็อคดาวน์

เป็นเหตุให้ ยูฟ่า มีความกังวลเรื่องนำคณะนักเตะมาอยู่บนพื้นที่ความเสี่ยง นำมาซึ่งไอเดียย้ายสังเวียนแข่งมายังเวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ กรณีสองสโมสรเมืองผู้ดีอย่าง เชลซี กับ แมนฯ ซิตี้ หลุดไปชิงแชมป์สำเร็จ

แล้วก็มีความเป็นไปได้เพราะรอบรองฯ เลกแรก ‘สิงห์บลูส์’ ออกไปเจ๊า เรอัล มาดริด ที่สเปน 1-0 ส่วน ซิตี้ แซงเชือด ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถึง ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ 2-1

อย่างไรก็ตามแถลงการณ์จาก ยูฟ่า แจ้งว่ามาตรการล็อคดาวน์ของตุรกีมีถึงแค่ 17 พ.ค. ส่วนนัดชิงฯ ชปล. ณ อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม เตะ 29 พ.ค. เลยกำหดเข้มงวดพิเศษมาอีกกว่า 12 วัน

ดังนั้นเชื่อว่าปัญหาเรื่องการระบาดของโควิดในตุรกีจะไม่ส่งผลกระทบต่อเกมชิงชนะเลิศ อีกทั้งฝ่ายจัดก็มีมาตรการคัดกรองผู้มีส่วนร่วมอย่างเข้มงวดและจำกัดจำนวนสักขีพยานของเกมวันนั้นด้วย